[an error occurred while processing this directive]
คลิ๊กที่นี่ เพื่อทักทายสปอนเซอร์ของเรา

สัตว์เลี้ยงแสนรัก ของเพื่อนๆ ชาว IRC ที่แนะนำกันเข้ามา

ชื่อ : บลู (เพราะตอนเล็กๆ ตาสีฟ้า)
เพศ : ผู้
พันธุ์ : ผสมระหว่างบางแก้ว+ไทยหลังอาน
เกิด : 19 มกราคม 2537
ของชอบ : น้ำแข็ง, ไอศครีม, ทุเรียน, ช็อคโกแล็ต และอะไรหวานๆ และเผ็ดๆ
ปัจจุบัน : เสียชีวิตแล้ว (วันที่ 20 ธันวาคม 2539 โดนวางยา)
นิสัย : ขี้เล่น, ดื้อ, ฉลาด และ สุดโกง จะยอมทำทุกอย่างถ้ามีของกินมาล่อ

ผู้แนะนำ [email protected]
ICQ : 9841537


ความหล่อของเจ้าบลู

มาดเท่ห์ๆ ของบลู

ท่าทาง Action ขี้เล่น

ดูความอ้อนของบลูซิ

ความเดิม : บูล ชื่อนี้อาจไม่ได้เป็นชื่อของสุนัขตัวนี้ ถ้าคุณพ่อคุณแม่แม่อนุญาติให้เลี้ยง ไม่ใช่ว่าที่บ้านไม่รักสัตว์แต่ที่บ้านเราอยู่กันแค่ 4 คน (มีพี่ชายอีกคน) เนื้อจากกลัวว่าถ้านำสัตว์มาเลี้ยงจะต้องเป็นภาระและสงสารมันตอนที่อยู่ตัวเดียวในบ้าน เพราะทุกๆ คนต้องออกจากบ้านไปทำงานและธุระเรื่องการเรียนของฉัน และ เจ้าของคนเดิมของเจ้าบูล (ถ้าเขาไม่ให้ฉันมาฉันก็ไม่ได้เลี้ยงอีกเช่นกัน)

ประวัติ : แรกพบบูล เจ้าบูลเป็นลูกสุนัขพันธุ์ไทย ผสมระหว่าง พ่อพันธุ์บางแก้วกับแม่พันธุ์ไทยหลังอาน บูลมีพี่น้อง 8 ตัว มีเจ้าบูลนี่แหละที่ตอนเกิดมาแปลกกว่าพี่น้องทั้งหมด คือ ตัวเล็กมาก และหลังไม่อาน เพราะเหตุนี้อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เจ้าของคนแรกของบูลตัดสินใจยกให้ฉันเลี้ยงเพราะอาจคิดว่า เป็นสุนัขที่ไม่มีลักษณะเด่นอะไรเสียเลย

แรกพบ : ตอนได้เจ้าบูลมาใหม่ๆ ฉันก็เห่อมันมาก ก็ลูกหมาตัวเล็กๆ อายุเดือนเศษๆ เพิ่งหย่านมใหม่ๆ ได้มาช่วงปลายๆ ฤดูหนาว (กุมภา) เสียด้วยซิ สองสามวันแรกฉันพาเจ้าบูลไปนอนบนเตียงในห้องฉันเลยก็ตัวมันเล็กสงสารมันกลัวยุงกัดเพราะตอนนั้น ดูมันก็คงจะชอบเหมือนกัน ซุกๆ เข้ามาในใต้ผ้าหม่ เล่นเอาฉันกลัวจะเผลอไปทับมันตายเสียนี่

วัยเด็ก : พออายุได้สามสี่เดือน เจ้าบูลก็คึกจัด แทะโน่นแทะนี่บ้างตามประสาสุนัขเด็กวัยซน แต่พอแทะรองเท้าคุณพ่อซิ พ่อเลยจับตบปากนั่งให้สำนึก (ได้ผลจริงๆ ตั้งแต่นั้นไม่แทะรองเท้าอีกเลย)

วัยหนุ่ม : พอโตๆ หน่อย เริ่มเป็นสุนัขวัยรุ่น เจ้านี่ซนมาก เริ่มหวงถิ่น คือ ที่บ้านใครเดินเข้ามาบริเวณรั้ว ถ้าเฉยๆ แต่งตัวดีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าวิ่งๆ ส่งเสียงดังหรือแต่งตัวโทรมๆ ละก็เจ้าบูลนี่แหละเห่าเสียงดัง กังวาลก้องไปทั้งซอย เล่นเอาเด็กๆ บริเวณนี้ไม่ค่อยมีใครกล้าไปแหย่บูล แต่บูลก็ไม่เคยกัดใคร (กัดได้งัยเลี้ยงอยู่ในบ้าน จะออกไปไหนเป็นต้องล่ามโซ่)

กิจวัตรประจำวัน : ทุกๆ เช้าเวลาประมาณตีห้า เจ้าบูลก็จะตะกุยประตูปลุกคนในบ้านให้พาไปข้างนอก ก็ต้องมีใครสักคนพาเอาเจ้าบูลผูกเชือก ไปเดินทำธุระส่วนตัวของนอกๆ บ้าน ก็ไม่มีอะไรมากพาไปวิ่ง หรือไม่ก็ให้บูลทำธุระส่วนตัว บูลเป็นสุนัขอะไรก็ไม่รู้ ฉี่เยอะจริงๆ เหมือนๆ อั้นไว้ ออกไปข้างนอกได้ก็ฉี่ๆ สิบๆ แห่ง

อาหารการกิน : เนื่องจากเจ้าบูลเป็นสุนัขตัวเดียวของบ้านนี้มีแต่คนเอาอกเอาใจจนเสีย(หมา) ตอนเด็กๆ เลี้ยงง่ายมากให้อะไรก็กินๆ กินทุกอย่างเลย ทั้งผัก,ผลไม้,ขนม อยากทานอะไรก็ได้กินสมใจ พอโตขึ้นหน่อยเริ่มเป็นสุนัขฉลาด+ดื้อ เพื่อนๆ เคยเห็นสุนัขเมินจานข้าวหรือไม่ ก็มีเจ้านี่แหละให้อาหารซ้ำถ้าหากบูลเบื่อ เวลาอาหารจะร้องงี้ดง้าดส่งเสียงดังเหมือน (ผมหิวแล้ว) แต่พอคลุกให้เสร็จวางจาน ถ้าเจ้านี่เบื้อเจ้านี่ก็จะดมสองสามทีเอาเท้าเขี่ยๆ เหมือนๆ จะคว่ำจานข้าวทิ้งแล้วก็ไม่สนใจเดินเชิดโดยไม่แตะอาหารเลย (มันน่าฆ่าทิ้งหรือจับไปปล่อยวัดไหมเนี่ย) ถ้าเป็นสุนัขบ้านอื่นคุณคงปล่อยมัน แต่บ้านนี้คุณแม่ออกจะใจดี อืมส์ แกไม่ชอบหรือฉันทำไม่อร่อยหรืองัย คว่ำจานทิ้งทอดไข่เจียว หรือไม่ก็เอาอาหารจำพวกน้ำพริก คลุกๆ ให้ใหม่ ได้ผลแฮะ กินอย่างอะเร็ดอร่อยแถมส่งเสียงร้องขอเพิ่ม (ดูมันทำซิ???)

อาหารโปรด : พวกของหวานๆ และอร่อยๆ เผ็ดๆ ก็ได้ เจ้าบูลนี่แหละชอบๆ (สรุปคือกินเหมือนคน) ลูกกวาด, ช๊อคโกเล็ต, ไอครีม, ทุเรียน, น้ำพริกคลุกข้าว (ยิ่งเผ็ดยิ่งชอบกินไปแบบอร่อยจริงๆ)

ความสามารถพิเศษ : เห็นรูปร่างอย่างนี้นะ ขี้เล่น ฉลาดและสุดโกง วิธีเล่นขว้างของไปก็วิ่งเก็บมาให้ (ยามมีอารมณ์เล่นนะ) ถ้ามีของกินล่อหน่อย สั่งได้หมด จะกลิ้งนั่งไหว้ นอนหมอบ ทำท่าหมาตาย สาระพัดท่า นอกจากนี้ยังเป็นยามดูแลความปลอดภัยในบ้าน มีหลายครั้งเป็นทั้งจับหนู, กิ้งก่า, จิ้งจก, จิ้งเหลน และงู (จับหนูได้ก็คาบๆ โยนๆ ตายเลยสงสารมัน หลายตัวนะ , จับงูได้ก็คาบมาโชว์ที่เห็นๆ จะสองตัว แถมคาบมาวิ่งไล่ฉันอีกเล่นเอาร้องไห้เลย ไอ่หมาบ้าเหมือนเอางูมาแหย่ๆ ฉัน, ส่วนจิ้งจกนี่แหละตัวที่พ่อฉันไม่ชอบตกดึกจะมานั่งเฝ้าข้างๆ รถคุณพ่อฉันมองจิ้งจกกินแมลงข้างๆ หลอดไฟบนเพดาน พอจิ้งจกตกใส่หลังคารถเจ้านี้ กระโดดตะกายขึ้นรถ สรุปรถที่บ้านทั้งคันเป็นรอยเท้าเจ้านี่ข่วน วิธีแก้คือ จอดรถเปิดกระโปรงหน้า หลัง เอาไว้กั้นไม่ให้มันกระโดดตะกาย)

วีรกรรมสายเลือดนักสู้ : อย่างที่เคยกล่าวไว้ว่าบูลไม่เคยกัดใคร และทุกๆ เช้าแทบทุกวันจะพาเจ้าบูลออกไปเดินเล่นโดยมีโซ่ล่ามกับถือไม้อีกอันตามประกบ แบบว่า เสียวๆ เกิดไปกัดใครไม่คุ้มและอีกกรณีคือ กลัวสุนัขตัวอื่น เพราะในซอยใกล้เคียงมีสุนัขตัวอื่นอยู่เป็นฝูง เช้าวันหนึ่งก็พาไปเดินตามปกติ ก็ไม่เข้าใจอารมณ์ของเจ้าบูล ระหว่างทำธุระส่วนตัวมีสุนัขซอยอื่นมาเห่าเหมือนๆ หวงถิ่น เจ้าบูลก็เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น อยู่ๆ สุนัขทางนั้นตัวหนึ่งเดินมาใกล้ๆ ทำทีท่าเหมือนไม่พอใจ ขู่และเห่า เจ้าบูลเกิดฮึดอีกท่าไหนไม่ทราบ ดึงซ่ะโซ่ที่ล่ามตึง คองี้แบบว่าหายใจไม่ออก ฉันก็รีบดึงมันกลับ แต่ด้วยแรงของบูลดึงจนตะขอที่ติดระหว่างปลอกคอกับโซ่ง้างออกแล้วบูลก็หลุดออกไปเป็นอิสระ คราวนี้การตะลุมบอลครั้งใหญ่จึงเกิดขึ้น สุนัข 6 ตัว กับเจ้าบูลตัวเดียว กัดกันใหญ่ ฉันเองก็ตกใจไม่รู้ทำอย่างไร หยิบก้อนหินขว้างไป สุนัขตัวอื่นก็วิ่งหนี เจ้าบูลก็ไม่หยุดอีกวิ่งตาม วิ่งกวดกัดกันไปข้ามซอยไปถึงสองซอยทีเดียวไปไกลมากแบบไม่ยอมเลิก จนสุดท้ายฉันไม่รู้ทำอย่างไรตีสุนัขตัวอื่นก็เหมือนๆ กับยุให้เจ้าบลูหรือช่วยเจ้าบลูกระมังสุดท้าย เอาไม้ตีที่หัวเจ้าบูลทีนึง ได้ผลแฮะ หยุดเลย แล้วบอกบลูกลับบ้าน แค่นั้นบลูเดินคอตกกระเผลกๆ กลับบ้านเฉยเลย สงสารก็สงสารนะ แต่ไม่รู้ทำอย่างไร (โดนเขารุมหลายตัวงับขาลากไปมาบ้าง แต่เจ้านี่ก็ใช่ย่อยกัดซ่ะตัวอื่นเลือดโซกเลย) เล่นเอาเดินขากระเผลกๆ ไป สามสี่วัน แล้วก็ซ่าส์เหมือนเดิม

ปลายปี 39 : บ้านหลังใหม่ที่คุณพ่อคุณแม่ซื้อไว้ เสร็จพอดีบรรยากาศดีมากๆ มีทะเลสาบใกล้ๆ บ้านด้วยและเนื้อที่ก็มากกว่าคงมีที่ให้บูลได้วิ่งเล่นเยอะ ก็ตกลงกันว่าย้ายไปก็จะพาเจ้าบูลไป พอวันที่จะย้ายหรือพาเจ้าบลูไปนี่แหละ เหนื่อยและลำบากจริงๆ ทำอย่างไรก็ไม่ยอมขึ้นรถท่าเดียวสงสัยรักบ้านหลังเก่ามาก (เจ้าบูลไม่เคยนั่งรถเก๋งไปไหนมาไหน) จนต้องไปที่คลีนิคสัตว์ขอยานอนหลับมาให้บลูกิน คุณหมอบอกว่าให้แวเลี่ยมกินสองเม็ดหลับปุ๋ย แต่คุณพ่อก็ขอมา 6 เม็ด แล้วก็ล่อหลอกให้บูลกินโดยผสมกับไส้กรอก 2 เม็ด อาการยังปกติแถมเรี่ยวแรงไม่รู้มาจากไหน ไม่ยอมหลับ สรุปกินจนหมด 6 เม็ดก็ยังวิ่งเริงร่า (สงสัยสุนัขติดยาบ้า ยาอีป่าว) เล่นเอาต้องโทรไปถามคุณแม่ (คุณแม่เป็นพยาบาล) คุณแม่ก็เลยบอกว่ามียานอนหลับที่บ้านในกล่องเลยเอามาให้กินอีกสองเม็ด คราวนี้ก็ยังคงซ่าส์แบบเดิมไม่ยอมหลับยอมนอนให้อุ้มหรือจับขึ้นรถ พอจะวิ่งจับเจ้านี่ก็วิ่งหนี ผลสุดท้ายเลยใช้วิธีเอาผ้าหม่คลุมทั้งตัวแล้วจับยัดใส่รถเก๋ง ออกมา พอขึ้นรถได้ปิดประตู ตัวเงี่ยสั่นทั้งตัว เหมือนกลัวว่าคนที่บ้านจะเอาไปฆ่าทิ้ง แต่พอรถวิ่งออกไปได้นิดๆ หน่อยๆ แหมทำซนเล่นทำตายิ้ม (สงสัยชอบแหงๆ) พอถึงบ้านใหม่ก็มีกรงที่ต่อให้ใหญ่อยู่สบายถูกกักขังเป็นชั่วครั้งชั่วคราว

ลางร้าย : ช่วงประมาณปลายปี 39 เพื่อนๆ คงจำกันได้ ประเทศไทยช่วงนั้นไปที่ไหนๆ ก็มีแต่น้ำท่วม และบ้านใหม่ที่บูลอยู่นี้ก็หนีไม่พ้นเหมือนกัน ก็โซนบางบัวทองน้ำท่วมโขเชียว ขนาดไปไหนมาไหน คนยังต้องอาศัยเรือ (หางยาวเสียด้วย) มาวิ่งบนถนนแทนรถได้ มีแต่ผู้คนเพื่อนบ้านต่างอบยพย้ายหนีไปพักที่อื่นกันทีละหลังสองหลังเพราะการเดินทาง ทำให้ในหมู่บ้านเกิดอาการร้างไปเสียเลย แล้ว ภัยก็เกิดขึ้น ขโมยตามยกเค้าทีละหลังสองหลัง แต่บ้านที่บูลอยู่อาจเป็นเพราะบูลเห่าเสียงดังและดุท่าน่ากลัวก็เป็นได้ ขโมยไม่เข้าบ้านอยู่หลังเดียว นอกนั้นรอบข้างโดนหมด พอน้ำลดทุกบ้านก็ กลับมาอย่างเดิม แลดูเหมือนว่าทุกอย่างจะปกติต่างคนต่างซ่อมแซมบ้าน ทาสีกันใหม่ เพื่อทำขวัญหลังภัยน้ำท่วม เจ้าบูลก็เหมือนๆ จะ happy ได้ไปเดินเที่ยวเล่นมากขึ้น

เหตุร้าย : วันที่ 19 ธันวาคม ใกล้สิ้นเดือนแล้วซิ เกิดบางสิ่งบางอย่างผิดปกติขึ้น ตื่นเช้ามา พาเจ้าบูลไปเดินเล่น แลดูซึมๆ หงอยๆ ไปเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเดินได้เหมือนเดิมแต่ออกอาการ คือเหนื่อยง่าย กินแต่หญ้า (รู้เลยว่าไม่สบายเวลาสุนัขไม่สบายจะหาอะไรกินเพื่อให้สำรอกออกมา) ให้กินข้าวก็ไม่กิน หงอยๆ สงสารเหมือนกัน เพราะสุนัขพูดไม่ได้ ไม่รู้จะทำอย่างไร ประกอบ กับช่วงนั้นที่บ้านก็ยุ่งๆ กับการสอบ เลยคิดไปว่า ถ้าพรุ่งนี้ยังไม่หาย จะพาไปหาหมอ แล้วทุกคนก็ออกไปเรียน ไปทำงาน ทำธุรของตนปล่อยให้บูลเฝ้าบ้านเหมือนเช่นเคย ตกเย็น คุณพ่อ + คุณแม่ กลับถึงบ้านก่อน แม่ก็จัดแจงเตรียมอาหารจานโปรดให้เจ้าบูล โดยคุณพ่อเป็นคนเอาไปให้ เรื่องที่คุณพ่อเล่าให้ฟังคือ พอพ่อเดินไป เห็นนอนซม ก็เลยเรียกบูล บูลเอ่ย ลุกมากินข้าวหน่อยมา เจ้าบูลก็เงยหน้าขึ้น กระดิกหางเล็กน้อย แล้วก็พยายามลุกๆ ขึ้นมาหาคุณพ่อ (เหมือนเรี่ยวแรงจะไม่มี) พอยืนขึ้นได้ ไม่ทันที่จะเดินก็ล้มลงแล้ว กระตุกสองครั้ง ลิ้นจุกปากสิ้นใจทันที เล่นเอาพ่อกับแม่ อึ้งเลย คุณพ่อเล่าว่า ตอนนั้นก็พยายามปั้มหัวใจเจ้าบูลแต่ทำอย่างไร ก็ไม่รู้สึก บูลไปแล้ว รู้เพียงเท่านี้ เรากลับมาถึงบ้านดึกไปหน่อยวันนั้นมีติเลยกลับค่ำว่าทำไม บ้านมันเหงาๆ อย่างไรชอบกล พอรู้เรื่องร้องไห้ทันที โฮแบบไม่ยั้ง ตอนเขียนเรื่องนี้ก็น้ำตาคลอๆ ร้องไห้ด้วย ไม่รู้ซิ นึกถึงเจ้าบูลทีไร น้ำตามันต้องออกมาเสียทุกที

สนใจแนะนำสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของท่านให้กับเพื่อนๆ คนอื่น เรายินดีจัดทำ Web page ให้ฟรี
โปรดติดต่อที่ [email protected] หรือ ICQ : 5526222

[ กลับหน้าหลัก IRCPETS ]